เมื่อพูดถึงภาพยนตร์สยองขวัญที่ยืนหยัดมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นแฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่ The Conjuring: Last Rites (2025) คือบทสรุปของซีรีส์ The Conjuring Universe ที่มาพร้อมกับการกลับมาของคู่สามี-ภรรยาผู้ล่าผีในโลกจริงอย่าง Patrick Wilson และ Vera Farmiga ในบท Ed และ Lorraine Warren ภายใต้การกำกับของ Michael Chaves ซึ่งหนังเรื่องนี้ไม่เพียงเป็นการปิดตำนานแต่ยังกลายเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในแฟรนไชส์อีกด้วย วิกิพีเดีย+1
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกทั้ง ประวัติ การสร้าง, เบื้องหลัง ทีมงานและการถ่ายทำ, กระแสตอบรับและคะแนน, ผลงานภาพยนตร์, และสรุปว่าแฟนหนังสายสยองควรดูหรือไม่ – พร้อมการเผย สปอยล์เนื้อเรื่องแบบละเอียด เพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้น
ประวัติการสร้างแฟรนไชส์และที่มาของ Last Rites
จุดเริ่มต้นของ The Conjuring Universe
แฟรนไชส์ The Conjuring เริ่มต้นขึ้นจากภาพยนตร์ The Conjuring (2013) ที่กำกับโดย James Wan พร้อมนำเอาเรื่องราวของ Ed และ Lorraine Warren สองนักสืบปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติมาสู่จอใหญ่ ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในแง่รายได้และกระแส ทำให้เกิดภาคต่อสปิน-ออฟ เช่น Annabelle, The Nun รวมถึงภาคหลักหลายตอน ซึ่งได้สร้างฐานแฟนให้กับจักรวาลนี้โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวผีแบบ “อิงเหตุการณ์จริง”
หลังจากนั้น เมื่อแฟน ๆ เริ่มตั้งคำถามว่า “จะมีแค่ไหน?” ทีมผู้สร้างจึงประกาศแผนทำภาคต่อและบทสรุป โดย Last Rites ถูกตั้งให้เป็นบทปิด (หรืออย่างน้อยคือจุดเปลี่ยน) ของแฟรนไชส์ วิกิพีเดีย+1
การพัฒนา Last Rites
ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทโดย Ian Goldberg, Richard Naing, และ David Leslie Johnson-McGoldrick จากเรื่องราวต้นแบบโดย James Wan และ Johnson-McGoldrick วิกิพีเดีย มีการเปิดเผยว่าเป็นภาคที่ตั้งใจ “ส่ง” Ed และ Lorraine Warren ออกจากจุดหนึ่งของชีวิต พร้อมตั้งคำถามถึงจุดหมายของการสืบสวนเหนือธรรมชาติตลอดหลายปี
ผู้กำกับ Michael Chaves ซึ่งเคยทำภาคก่อน ๆ มาแล้ว เข้ามารับหน้าที่กำกับด้วยความตั้งใจทำให้ภาพยนตร์มีโทนที่ “หลอนลึกแต่มีหัวใจ” มากกว่าสยองแบบผีเฉย ๆ The Cosmic Circus+1
ทีมโปรดักชันยังมี James Wan และ Peter Safran กลับมานั่งเป็นโปรดิวเซอร์ ซึ่งทำให้แฟน ๆ มั่นใจได้ว่าองค์ประกอบของจักรวาลจะถูกดูแลอย่างเข้มข้น วิกิพีเดีย
งบประมาณและการจัดจำหน่าย
ข้อมูลล่าสุดจากวิกิพีเดียระบุว่า งบประมาณของภาพยนตร์อยู่ที่ $55 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ วิกิพีเดีย ส่วนผู้จัดจำหน่ายคือ Warner Bros. Pictures ภาพยนตร์เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 5 กันยายน 2025 วิกิพีเดีย+1
เบื้องหลังการถ่ายทำ ทีมงาน และจุดขายทางภาพ
นักแสดงหลัก
-
Patrick Wilson รับบท Ed Warren: นักพิสูจน์เหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่เชื่อในความดีและการช่วยเหลือผู้คน
-
Vera Farmiga รับบท Lorraine Warren: มีพลังจิตและอารมณ์ที่ซับซ้อน เผชิญทั้งผีและชีวิตครอบครัว
-
Mia Tomlinson รับบท Judy Warren: ลูกสาวของ Ed และ Lorraine ที่เติบโตขึ้นมาและมีบทบาทมากขึ้นในภาคนี้ วิกิพีเดีย+1
-
Ben Hardy รับบท Tony Spera: คู่หมั้นของ Judy และเป็นตัวเชื่อมเรื่องราวด้านครอบครัวเข้ากับเหตุเหนือธรรมชาติ
สไตล์ภาพและโทน
ภาพยนตร์ความยาว 135 นาที ชูโทนภาพมืดคล้ำแต่ใช้แสงในแบบที่เรียกว่า “หลอนแบบมีหัวใจ” ซึ่งผู้วิจารณ์ชี้ว่าช่วยเพิ่มมิติให้ตัวละครมากกว่าฉากกระโดดหลอนเพียงอย่างเดียว The Cosmic Circus+1
ดนตรีประกอบโดย Benjamin Wallfisch ซึ่งเข้ามาแทนที่คอมโพสเซอร์คนก่อน พร้อมเลือกใช้ธีมหรือซาวด์ที่มีรากเดียวกับภาคก่อนแต่ปรับให้ร่วมสมัย วิกิพีเดีย
จุดขายที่แตกต่าง
-
การ “อำลาทำเนียบ” ของ Ed & Lorraine Warren: ภาคนี้ให้ความรู้สึกว่าเป็นบทส่งท้ายของคู่ฮีโร่เหนือธรรมชาติ ซึ่งเป็นแรงดึงดูดสำหรับแฟนคลับหลายคน The Cosmic Circus
-
การอิงเหตุการณ์จริง อย่าง “Smurl haunting” (ครอบครัว Smurl) เป็นคดีที่ถูกรายงานใน 1970s – 80s ในเพนซิลเวเนีย จึงเพิ่มมิติความน่าเชื่อถือ วิกิพีเดีย+1
-
ฉากและเอฟเฟกต์ที่วางแผนมาเพื่อจอใหญ่ (IMAX & โรงภาพยนตร์เสียงดี) ทำให้สายสยองได้ประสบการณ์เต็มพิกัด
เนื้อเรื่องสปอยล์แบบละเอียด
คำเตือน: ส่วนนี้มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องทั้งหมดของภาพยนตร์
จุดเริ่มต้นและเบื้องหลัง
เรื่องราวเปิดต้นในปี 1964 เมื่อ Ed และ Lorraine Warren เข้าไปช่วยเหลือกรณีปริศนาเกี่ยวกับ “กระจกโบราณ” ในร้านของสะสม ซึ่ง Lorraine ถูกภาพวิญญาณกระแทก ทำให้เธอเกิดวิสัยทัศน์และคลอดลูกชื่อ Judy โดยที่เด็กเกิดมาอย่างผิดปกติ… วิกิพีเดีย+1
จากนั้นตัดเข้าสู่ 22 ปีต่อมา — ครอบครัว Smurl ย้ายเข้าบ้านเก่าใน West Pittston, Pennsylvania มีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเกี่ยวกับกระจกที่นำเข้ามาในบ้าน พวกเขาพบเสียงประหลาด เหตุการณ์รุนแรง และความทุกข์ทรมานของสมาชิกในครอบครัว วิกิพีเดีย+1
จุดไคลแม็กซ์และบทสรุป
Ed และ Lorraine ถูกดึงกลับมาสืบสวนอีกครั้ง แม้ใจอยากพักผ่อน และ Judy ซึ่งตอนนั้นเติบโตขึ้นและมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ ร่วมทีมกับ Tony เพื่อช่วยครอบครัว Smurl – จุดที่หนังเคลื่อนเข้าสู่ “ความเชื่อ vs ความหวาดกลัว”
ในฉากสุดท้าย วิญญาณที่อยู่เบื้องหลังถูกเปิดเผยผ่านกระจกและให้การต่อสู้ระหว่างครอบครัว Warren, Smurl และ Tony / Judy การเอาชนะไม่ได้แค่ด้วยเครื่องมือแต่มีกำลังใจ ความรัก และการยืนหยัดร่วมกัน สุดท้ายกระจกถูกทำลาย และ Warren ครอบครัวร่วมฉลองในงานแต่งงานของ Judy —เป็นภาพปิดที่เต็มเรื่องทั้งความหวาดกลัวและความอบอุ่น วิกิพีเดีย+1
ประเด็นสําคัญจากเนื้อเรื่อง
-
Lorraine เผชิญกับความรับผิดชอบทั้งในบทบาทนักสืบผีและแม่
-
Ed ต้องเผชิญกับสุขภาพและการถอนตัวจากงานที่รัก
-
Judy คือ “ตัวจุดเปลี่ยน” ที่สะท้อนว่า “ศรัทธา” ไม่ได้จำกัดอายุ
-
กระจกโบราณทำหน้าที่ทั้งเป็นสัญลักษณ์และอาวุธของความชั่วร้าย
กระแสตอบรับและคะแนนวิจารณ์
รีวิวจากนักวิจารณ์
รีวิวโดยรวมค่อนข้างหลากหลาย — เว็บไซต์ Rotten Tomatoes ระบุว่าอัตราการอนุมัติอยู่ราว ๆ กลาง ๆ (ประมาณ 59-62 %) ซึ่งในแง่แฟรนไชส์ถือว่าสูงกว่าภาคแยกหลายภาคแต่ยังไม่เท่าภาคแรกสองตอน GamesRadar+
ผู้วิจารณ์บางรายชมว่า “ฉากสุดท้ายแสดงความอบอุ่นและตลกปนหลอนได้ดี” Roger Ebert+1 ขณะเดียวกันก็มีเสียงว่า “หนังใช้สูตรเดิมเยอะเกินไป” และ “ความหวาดหลอนลดลงเมื่อเทียบกับภาคก่อน” Houston Chronicle+1
ผลงานรายได้และสถิติ
-
ภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลกกว่า $487 ล้านดอลลาร์ ตามวิกิพีเดีย โดยใช้ทุนผลิต ~$55 ล้าน วิกิพีเดีย
-
ทำสถิติเปิดตัวสัปดาห์แรกมากที่สุดในแฟรนไชส์ (และอาจเป็นสถิติภาพยนตร์สยองขวัญของปี 2025) โดยทำเงิน ~ $84 ล้านในสหรัฐฯ กลายเป็น “เปิดตัวสัปดาห์แรกสูงสุดในแฟรนไชส์” วิกิพีเดีย
-
มีรายงานว่าสิ้นสุดเปิดตัวทั่วโลกประมาณ $194 ล้านในสัปดาห์แรก People.com
กระแสจากผู้ชมทั่วไป
ใน Reddit/Movies มีกระแสว่า
“I’d give it a solid 6.5/10. Not as good as the first 2 but better than the third. Enjoyed the scares and the spookiness of it…” Reddit
ซึ่งแสดงว่าแม้แฟนบางส่วนจะไม่เห็นว่าเป็นภาค “สุดยอด” แต่ยังมีความพึงพอใจอยู่ในระดับดี
จุดเด่นและจุดด้อยอย่างละเอียด
จุดเด่น
-
การปิดเรื่องของ Warren ด้วยน้ำเสียงและอารมณ์: หนังน้อยครั้งจะให้ความรู้สึก “ลากยาวจนหมดเรื่อง” แบบนี้และยังมีช่วงเวลาที่เกิดความรู้สึกถึง “การส่งต่อ” อย่างชัดเจน
-
รายละเอียดจากเรื่องจริง: ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าแม้จะเป็นจินตนาการแต่มีฐานความเชื่อด้านเหนือธรรมชาติ
-
เอนเอียงไปทางอารมณ์และครอบครัว: ทำให้หนังไม่ใช่แค่ “ผีหลอก” แต่มีหัวใจ
จุดด้อย
-
ฟอร์มูล่าหนังผียังเดิม: บทวิจารณ์หลายสำนักมองว่าใช้สูตรเดิมของแฟรนไชส์มากเกินไป Houston Chronicle
-
ความหวาดหลอนถูกลดทอน: สำหรับผู้ชมที่คาดหวังให้หลอนแบบภาคแรกอาจรู้สึกว่าภาคนี้หันมาเน้นอารมณ์มากขึ้น
-
ตัวละครรองเยอะ: ทำให้บางฉากรู้สึกกระจัดกระจายและไม่ลึกเท่าไหร่
ผลงานล่าสุดและความหมายต่ออนาคตแฟรนไชส์
แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกวางให้เป็นบท “จบ” ของจักรวาลหลัก The Conjuring Universe (The Conjuring 1-2-3-Last Rites) วิกิพีเดีย+1 แต่สตูดิโอยืนยันว่าอาจขยายผ่านสปิน-ออฟหรือซีรีส์ทางโทรทัศน์ ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่เปิดทางให้แบรนด์ดำเนินต่อได้ในรูปแบบใหม่
สำหรับ Patrick Wilson และ Vera Farmiga ถือเป็นบทบาทที่มีความหมายยาวนาน และการส่งต่อ Judy Warren ให้มีบทบาทมากขึ้นอาจเป็นการเปิดทางให้ดารารุ่นใหม่สานต่อเรื่องราวได้
สรุป: ควรดูไหม และสำหรับใคร?
ถ้าคุณเป็นแฟนแฟรนไชส์ The Conjuring, ชอบคู่ Warren, หรืออยากเห็นหนังผีที่มีมิติเชิงครอบครัวและเชิงอารมณ์ The Conjuring: Last Rites คือเรื่องที่ควรดูอย่างยิ่ง. แต่ถ้าคุณคาดหวัง “หนังผีสุดหลอนแบบต้นฉบับ” ที่แรงกดดันมาก ๆ อาจรู้สึกว่ายังขาดบางอย่าง.
โดยสรุป: ภาพยนตร์นี้ คุ้มค่าดูในฐานะแฟนคลับ และเป็นบทสรุปที่ยุติศาสตร์ให้แฟรนไชส์อย่างมีมาตรฐาน แต่ไม่ใช่ผลงานที่แนะนำให้ผู้ชมทั่วไปที่ไม่เคยติดตามแฟรนไชส์นี้เริ่มต้นดู (ยกเว้นอยากเริ่มจากตรงนี้)
FAQ (ถาม – ตอบ)
-
หนัง The Conjuring: Last Rites เหมาะกับใคร?
– เหมาะกับผู้ชมที่ติดตามแฟรนไชส์ The Conjuring มาตั้งแต่ต้น ชอบคู่ Ed และ Lorraine Warren หรืออยากดูหนังผีที่มีสาระเชิงครอบครัวและอารมณ์มากกว่ากระโดดหลอน
– ถ้าคุณมองหาหลอนขั้นสุดแบบภาคต้นอาจต้องเตรียมใจว่าภาคนี้ใช้อารมณ์มากกว่า -
คะแนนวิจารณ์เป็นอย่างไร?
– ได้คะแนนรวมกลาง ๆ บน Rotten Tomatoes ราว 59-62% และถือว่าดีกว่าภาคแยกหลายภาคภายในจักรวาลนี้ GamesRadar++1
– รายได้ทั่วโลกประมาณ $487 ล้านดอลลาร์ วิกิพีเดีย -
เนื้อเรื่องคร่าว ๆ คืออะไร?
– เรื่องราวเกี่ยวกับ ครอบครัว Smurl ที่ประสบเคราะห์ร้ายจากกระจกโบราณ และ Ed/Lorraine Warren ที่ถูกดึงกลับมาสืบสวนอีกครั้ง รวมถึง Judy Warren ที่เติบโตและมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตครอบครัว + เหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ท้าทายที่สุดของพวกเขา -
มีสปอยล์สำคัญอะไรที่ควรรู้ก่อนดู?
– กระจกโบราณคือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์
– Judy Warren ถูกตีบทให้มีบทมากขึ้น
– หนังไม่ได้เน้นแค่ความหลอนแต่เน้นอารมณ์ครอบครัวและการส่งต่อ
– เป็นบทสรุปของแฟรนไชส์หลัก -
จะมีภาคต่อหรือแยกอื่นอีกไหม?
– ทีมผู้ผลิตระบุว่า Last Rites คือบทสรุปของจักรวาลหลัก แต่สปิน-ออฟหรือซีรีส์ทางทีวียังมีโอกาสเกิดได้ วิกิพีเดีย -
จุดขายพิเศษของหนังเรื่องนี้คืออะไร?
– การอำลาของ Warren คู่สำคัญในแฟรนไชส์
– การหยิบเหตุการณ์จริง (Smurl) มาใช้
– โทนอารมณ์และครอบครัวที่ไม่ใช่แค่ผีหลอก
– สถิติรายได้ที่สูงสุดของแฟรนไชส์และภาพยนตร์สยองขวัญประจำปี 2025 People.com+1
