ปลากัดไทย (Siamese Fighting Fish) ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Betta splendens เป็นสัตว์น้ำประจำชาติของไทยที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยสีสันที่สดใส ครีบที่พลิ้วไหว และนิสัยนักสู้ที่ดุดัน ปลากัดไทยมีวิวัฒนาการจากการคัดเลือกสายพันธุ์มาอย่างยาวนาน ทำให้เกิดความหลากหลายทั้งในด้านรูปร่างครีบ สีสัน และลวดลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
I. การแบ่งประเภทตามลักษณะทางธรรมชาติ (Wild Types)
ปลากัดป่า หรือ ปลากัดลูกทุ่ง เป็นบรรพบุรุษของปลากัดสวยงามทั้งหมดในปัจจุบัน มีรูปร่างและพฤติกรรมที่เน้นการเอาชีวิตรอดในธรรมชาติ
II. การแบ่งประเภทตามลักษณะทางครีบ (Fin Shapes / Forms)
ปลากัดสวยงามเกิดจากการคัดเลือกและผสมพันธุ์จากปลากัดป่า เพื่อให้ได้รูปร่างครีบที่ยาวและอลังการ โดยเฉพาะในปลาเพศผู้
III. สีสันและลวดลาย (Coloration and Patterns)
การคัดเลือกสายพันธุ์ได้ทำให้ปลากัดมีสีสันและลวดลายที่หลากหลายอย่างน่าทึ่ง ซึ่งสามารถผสมกับรูปร่างครีบต่าง ๆ ได้
1. การแบ่งตามโทนสี (Solid Colors)
- สีเดียว (Solid Color): มีสีเดียวกันทั้งลำตัวและครีบ
- สีสว่าง: ขาว (Opaque), เหลือง (Yellow), ส้ม (Orange), ทอง (Gold), ใส (Cellophane)
- สีเข้ม: แดง (Red), ดำ (Black/Melano), น้ำเงิน (Blue), เขียว (Green), คราม/ฟ้า (Turquoise/Royal Blue)
- สีเมทัลลิก (Metallic/Copper): มีเกล็ดที่สะท้อนแสงวาววับคล้ายโลหะ เช่น ทองแดง (Copper), เงิน (Silver), นิกเกิล
- สีดั้งเดิม (Bi-color/Traditional): มีลำตัวและครีบเป็น 2 สีผสมกัน เช่น Mustard Gas (ลำตัวน้ำเงิน/เขียว, ครีบเหลือง/ส้ม), Black Orchid (ลำตัวดำ, ครีบแดง/ม่วง)
2. การแบ่งตามลวดลาย (Patterns)
- ลายผีเสื้อ (Butterfly – BF): เป็นปลากัดที่มีสีบนลำตัวเป็นสีหนึ่ง แต่มีขอบครีบและหางเป็นสีขาวขุ่นหรือสีโปร่งใส ตัดกันชัดเจน
- ลายหินอ่อน (Marble): ลำตัวและครีบมีสีสลับกันเป็นหย่อม ๆ คล้ายลายหินอ่อน
- ลายโค่ย (Koi / Galaxy): เป็นปลากัดลายหินอ่อนที่มีสีสันคล้ายปลาคาร์พ (ปลาคาร์พญี่ปุ่น) มักมีสีแดง ขาว ดำ/น้ำเงิน
- สีเกล็ดตาข่าย (Net/Scales): ปลากัดที่มีขอบเกล็ดเป็นลายเส้นสีดำ ทำให้ดูเหมือนมีลายตาข่ายปกคลุมลำตัว
- แคนดี้/นีโม่ (Candy/Nemo): เป็นรูปแบบลวดลายที่พัฒนามาจากลายโค่ย แต่มีสีที่สดใสและจัดจ้านกว่า โดยเฉพาะสีนีออน (มักมีหลายสีปนกัน)
IV. พฤติกรรมเด่นของปลากัด (Key Behavior)
ปลากัดเป็นปลาที่น่าสนใจในด้านพฤติกรรม เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์ที่รักสันโดษและมีความก้าวร้าวสูง โดยเฉพาะในเพศผู้
- ความก้าวร้าวและการหวงอาณาเขต (Aggression & Territoriality):
- ปลาเพศผู้ไม่สามารถเลี้ยงรวมกันได้ จะต่อสู้กันจนกว่าตัวใดตัวหนึ่งจะยอมแพ้หรือตาย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “Siamese Fighting Fish”
- เมื่อถูกกระตุ้นหรือเห็นศัตรู (รวมถึงเห็นเงาสะท้อนตัวเองในกระจก) ปลาจะแสดงท่าทางข่มขู่ โดยการ “พอง” (Flaring) หรือ “เบ่ง” คือการแผ่ครีบทั้งหมด (ครีบหาง ครีบหลัง ครีบก้น) และแผ่แผ่นปิดเหงือก (Opercula) ออกมาให้ใหญ่ที่สุด เพื่อทำให้ตัวเองดูน่าเกรงขาม
- การหายใจทางอากาศ (Labyrinth Organ):
- ปลากัดมีอวัยวะพิเศษที่เรียกว่า “อวัยวะช่วยหายใจ (Labyrinth Organ)” ทำให้สามารถขึ้นมาฮุบอากาศจากผิวน้ำได้โดยตรง
- ความสามารถนี้ช่วยให้พวกมันอยู่รอดได้ในแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีออกซิเจนต่ำ เช่น คลอง หรือบ่อโคลนตม
- การสร้างหวอดและสืบพันธุ์ (Bubble Nesting):
- ปลากัดเพศผู้มีหน้าที่ ก่อหวอด (Bubble Nest) โดยการฮุบอากาศจากผิวน้ำและพ่นฟองที่มีเมือกออกมาเป็นแพเหนือน้ำ
- หวอดนี้ใช้เป็นรังสำหรับวางไข่ เมื่อผสมพันธุ์กับปลาเพศเมียเสร็จแล้ว ปลาเพศผู้จะไล่ปลาเพศเมียออกไป และทำหน้าที่เฝ้าไข่และดูแลลูกปลาจนกว่าจะฟักเป็นตัว
สรุป: ปลากัดไทยเป็นความภาคภูมิใจของชาติที่ไม่ได้มีเพียงแค่ชนิดเดียว แต่มีความหลากหลายของสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาและคัดสรรจนเป็นที่ยอมรับในตลาดปลาสวยงามทั่วโลก โดยมีจุดเริ่มต้นจากปลากัดป่าที่เรียบง่าย สู่ปลากัดสวยงามที่มีครีบยาวสง่างามและสีสันที่ตระการตาในปัจจุบัน
คลิปสายพันธุ์ปลากัดไทย










