หนัง Freaky Tales (2025) เรื่องเล่าแสนประหลาด

บทความรีวิวและวิจารณ์ภาพยนตร์: Freaky Tales (2025)

Freaky Tales เป็นภาพยนตร์รวมเรื่องสั้น (Anthology) ที่เต็มไปด้วยพลังงานอันวุ่นวายและสีสันของยุค 80s โดยเป็นการหวนคืนสู่รากเหง้าภาพยนตร์อิสระของผู้กำกับ Anna Boden และ Ryan Fleck ที่เคยกำกับภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์อย่าง Captain Marvel มาก่อน

คะแนนวิจารณ์ (อ้างอิงจาก Rotten Tomatoes/Metacritic):

• Rotten Tomatoes: 74% (จากคะแนนนักวิจารณ์)
• Metacritic: 58/100 (Mixed or Average)

ประเภท: แอ็กชัน (Action), ตลก (Comedy), อาชญากรรม (Crime), แฟนตาซี (Fantasy), ดราม่า (Drama) ผู้กำกับ/เขียนบท: Anna Boden & Ryan Fleck นักแสดงนำ: Pedro Pascal (Clint), Ben Mendelsohn (The Guy), Jay Ellis (Sleepy Floyd), Normani (Entice), Dominique Thorne (Barbie), Ji-young Yoo (Tina), Jack Champion (Lucid), และ Tom Hanks (รับเชิญ) ฉากหลัง: เมืองโอ๊กแลนด์ (Oakland), แคลิฟอร์เนีย ในปี 1987

 

เรื่องย่อโดยละเอียด (Synopsis)

 

Freaky Tales คือภาพยนตร์สี่เรื่องสั้นที่เชื่อมโยงกันอย่างหลวม ๆ โดยมีฉากหลังเป็นเมืองโอ๊กแลนด์ในปี 1987 เล่าเรื่องผ่านการบรรยายของแร็ปเปอร์ในตำนานอย่าง Too $hort ซึ่งเป็น Executive Producer ของภาพยนตร์ด้วย

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน โดยมีพลังงานลึกลับเรืองแสงสีเขียว (The Green Glow) แผ่ซ่านไปทั่วเมือง ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณและมอบพลังพิเศษให้กับตัวละครต่าง ๆ ได้แก่:

1. The Punks vs. The Neo-Nazis: เรื่องราวของกลุ่มพังก์วัยรุ่น นำโดย Tina และ Lucid ที่เข้าร่วมการปะทะนองเลือดกับกลุ่ม นีโอ-นาซี สกินเฮด ที่บุกเข้ามาโจมตีคลับพังก์ของพวกเขา การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการยืนหยัดเพื่ออิสรภาพและความเท่าเทียม
2. The Female Rap Duo: เรื่องราวของ Barbie และ Entice (รวมกันเป็นดูโอ้ Danger Zone) ที่ฝ่าฟันอุปสรรคในวงการฮิปฮอปที่เต็มไปด้วยการดูถูกผู้หญิง ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับแร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง Too $hort ในการแร็ปแบทเทิลที่เต็มไปด้วยความดุเดือดและแสดงถึงพลังหญิง
3. The Debt Collector’s Last Job: Clint (รับบทโดย Pedro Pascal) ชายที่ทำงานเป็นคนเก็บหนี้ให้กับเจ้าพ่อผู้ชั่วร้าย (“The Guy”) เขาพยายามจะออกจากวงการอาชญากรรมเพื่อไปใช้ชีวิตกับภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ “งานสุดท้าย” นี้กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมเมื่อคนในอดีตมาตามล้างแค้น
4. The Legend of Sleepy Floyd: เรื่องราวของ Eric “Sleepy” Floyd (รับบทโดย Jay Ellis) นักบาสเกตบอล NBA ระดับตำนานของทีม Golden State Warriors ที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสนาม แต่เมื่อเขาพบว่าครอบครัวของตนถูกกลุ่มนีโอ-นาซีทำร้ายที่บ้าน เขาจึงปลุกพลังเหนือธรรมชาติ (จาก Psytopics ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางจิตวิญญาณที่เขาสนับสนุน) และออกปฏิบัติการล้างแค้นด้วยวิชากังฟูและดาบอย่างสุดโต่ง

 

บทวิจารณ์และสปอยล์ (Review and Spoilers)

 

บทวิจารณ์:

Freaky Tales เป็น “จดหมายรัก” ที่เต็มไปด้วยความวายป่วงให้กับเมืองโอ๊กแลนด์ในยุค 80s และภาพยนตร์เกรด B (B-Movie) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของ Quentin Tarantino อย่าง Pulp Fiction และภาพยนตร์แนว Grindhouse

• จุดแข็ง:
  • สไตล์และพลังงาน: ภาพยนตร์มีสไตล์ที่โดดเด่นมาก ใช้ภาพแบบ VHS เก่า ๆ และมีการเปลี่ยนอัตราส่วนภาพ (Aspect Ratio) เพื่อให้สอดคล้องกับเรื่องราวในแต่ละตอน มีการใช้เพลงประกอบยุค 80s ที่ยอดเยี่ยม สร้างพลังงานที่ดุดันและสนุกสนาน
  • การแสดงของดารา: Pedro Pascal ในบท Clint เป็นส่วนที่ดราม่าที่สุดของเรื่อง และ Jay Ellis ในบท Sleepy Floyd เป็นส่วนที่บ้าคลั่งและสนุกที่สุด การปรากฏตัวของ Tom Hanks ในบทเจ้าของร้านวิดีโอ (Cameo) เป็นเซอร์ไพรส์ที่น่ารัก
  • ความกล้าหาญ: ผู้กำกับกล้าที่จะนำเสนอความรุนแรงและฉากต่อสู้ที่เกินจริง (Over-the-Top Gore) โดยเฉพาะในองก์ที่ 4 ที่กลายเป็นการคารวะภาพยนตร์กังฟูและ Blaxploitation
• จุดอ่อน:
  • ความไม่เชื่อมโยงกัน: ปัญหาทั่วไปของหนังรวมเรื่องสั้นคือความไม่สม่ำเสมอ คุณภาพของแต่ละตอนแตกต่างกัน และแม้จะมีความพยายามเชื่อมโยงผ่าน “แสงสีเขียวลึกลับ” แต่ก็ยังรู้สึกว่าขาดสายใยการเล่าเรื่องที่แข็งแรง ทำให้ภาพยนตร์ดูสะเปะสะปะ
  • ความลึกของเนื้อหา: เรื่องราวบางตอนขาดความลุ่มลึก และตัวละครบางตัวมีความสำคัญน้อยกว่าที่คาดหวัง

สปอยล์สำคัญ (Spoilers):

1. โศกนาฏกรรมของ Clint: Clint สูญเสียภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์จากการถูกลอบทำร้ายโดยคนจากอดีตของเขา ทำให้เขาตัดสินใจล้างแค้นและหันหลังให้ชีวิตอาชญากรรมอย่างถาวร แต่ในเวลาต่อมา เขาพบว่าลูกของเขารอดชีวิตมาได้ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เขากลับมาสู้เพื่ออนาคต
2. พลังของ Sleepy Floyd: ในขณะที่ Floyd กำลังทำลายสถิติในสนามแข่ง เขาก็ตระหนักว่าบ้านถูกโจมตี ทำให้เขาใช้อำนาจที่ได้รับจาก Psytopics และ แสงสีเขียว ในการ ‘วาร์ป’ ตัวเองไปที่บ้านของ “The Guy” (หัวหน้าโจร) และจัดการกับแก๊งนีโอ-นาซีอย่างโหดเหี้ยมด้วยกังฟูและดาบ ซึ่งรวมถึงการสังหารหัวหน้าแก๊งที่เป็นตำรวจชั่วด้วยการระเบิดพลัง
3. การรวมตัวของฮีโร่: ในตอนจบตัวละครทั้งหมดมาบรรจบกันโดยไม่ตั้งใจ ที่บ้านของ “The Guy” โดยกลุ่มพังก์ Tina และ Lucid ได้โทรแจ้ง Floyd ถึงพิกัดของโจร ทำให้เกิดความโกลาหลที่ Clint สามารถฉวยโอกาสหลบหนีไปพร้อมกับลูกสาวที่เพิ่งเกิดมาได้ ภาพยนตร์จบลงด้วยความหวังและการรวมตัวกันของผู้รอดชีวิตทั้งหมดที่ได้รับพลังจากการยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรม โดยมี Floyd มาโปรโมทหลักสูตร Psytopics ของเขา

ตัวอย่างหนัง